เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา หัวหน้าทีมคิวเรียสได้รับคำเชิญจากคุณประกิต อภิสาร ธนารักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย) เข้าร่วมพิธีเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ สุขุมวิท ซอย 62 ไม่ไกลจากเขตพระโขนง
การเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่มีเพื่อนหรือคุณประกิตเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหุ้นส่วนส่วนใหญ่ ถือเป็นงานมงคลและความสำเร็จครั้งแรก ขอแสดงความยินดีกำลังมา แต่ในขณะเดียวกัน การลงทุนสร้างโรงพยาบาลในเวลานี้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก เลยยังต้องลุ้นกันต่อไปว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร? เพื่อความอยู่รอดหรือไม่? จึงเป็นเหตุที่ควรส่งเสริมให้เข้าร่วม
เดิมทีคุณประกิตวางแผนที่จะสร้างโรงพยาบาลขนาดเล็กกะทัดรัด ในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นอาคารสูง 12 ชั้นพร้อมเตียงพยาบาล 144 เตียง และที่จอดรถ 8 ชั้นที่สามารถรองรับรถยนต์ได้กว่า 200 คัน
การลงทุนค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากแนวคิดการใช้เงินกู้ 1,000 ล้านบาท กลายเป็น 3000 ล้านบาท ดังนั้น ประกิตจึงต้องหา “หุ้นส่วน” มาลงทุน และสุดท้ายก็ซื้อบริษัทสหยูเนี่ยน บริษัท น้ำ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สหพัฒนาพิบูล จำกัด (มหาชน) เป็นหุ้นส่วน ต่อด้วยโปรเจ็กต์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ทั้งหมดจากแนวคิดเดิมจนเสร็จสมบูรณ์
นอกจากนี้ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และอดีตนายกสมาคมเศรษฐศาสตร์แห่งธรรมศาสตร์ที่หนึ่ง จะเป็นผู้นำโรงพยาบาลด้วย
มีรายงานที่มาของโรงพยาบาลในความคิดเห็นในพิธีเปิดโรงพยาบาล อาทิตย์ที่แล้ว นพ.สุนทร ศรีธา CEO ของโรงพยาบาลวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของโรงพยาบาลที่ว่า “เราจะเป็นโรงพยาบาลแนวคิดใหม่ที่พร้อมมอบบริการระดับพรีเมียมแบบครบวงจร ในราคาที่ดี” ให้กับคนไข้ของเรา
เมื่อคุณมีโอกาสได้พูดคุยระหว่างทานอาหารว่าง หัวหน้าทีมจึงขอให้คุณอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อความนี้…โดยเฉพาะคำถาม “แนวคิดใหม่” มันคืออะไร?
นพ.สุนทรอธิบายเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มาไกล ในขณะเดียวกัน เรามีแพทย์เฉพาะทางจำนวนมากในบ้านเราในด้านต่างๆ
แต่สิ่งที่ยังขาดหายไปคือการนำเอาเทคโนโลยีนี้และความรู้ทางการแพทย์มาใช้ควบคู่ไปกับการดูแลผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
จากประเด็นนี้ผู้บริหารของโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ไม่ใช่แค่การแพทย์เท่านั้น ให้เราช่วยคุณค้นหาคำตอบอื่น
จนกระทั่งระบบการจัดการ…การประสานงาน…การดำเนินงานและการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการดูแลทางการแพทย์ ได้กลายเป็น “แนวคิดใหม่” ในการดูแลทางการแพทย์ ที่รพ.ร่วมใจรักษ์@สุขุมวิท 62 จะยังคงใช้ต่อไป
Telemedicine ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการดูแลผู้ป่วยทางไกล จะช่วยให้แพทย์จากโรงพยาบาลสามารถดูแลผู้ป่วยได้ แม้ว่าจะอยู่ในทิศทางที่ต่างกันในขั้นต้นก็ตาม
ทันทีที่ผู้ป่วยล้มลงและในนาทีแรกที่รถพยาบาลมาถึง ข้อมูลแรกเกี่ยวกับผู้ป่วยจะถูกรายงานไปที่โรงพยาบาล และเมื่อผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลก็ “พร้อม” ที่จะดำเนินการรักษาทันที
รวมถึงระบบนี้จะทำให้สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ที่โรงพยาบาลจัดให้ได้เกือบ 300 คนอย่างใกล้ชิดและตลอดเวลา … และเมื่อปรึกษากับหลายโรคพร้อมกันเพื่อให้การรักษาได้ผลผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสามารถ นำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถามว่าบริการสมัยใหม่นี้จะราคาเท่าไหร่? ได้ดังเท่าคนร้องไห้ ขึ้นพาดหัวข่าวบ่อยไหม?
คุณหมอตอบว่าด้วยวิธีการจัดการของเรา…เราเชื่อว่าสามารถลดต้นทุนได้มาก ค่ารักษาของเราจะอยู่ในระดับที่ต้องการ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า “ราคาเป็นกันเอง” ที่ผู้มีรายได้ปานกลางมีแนวโน้มจะยอมรับ
ใช่! คงต้องดูกันต่อไปว่า โรงพยาบาล “แนวคิดใหม่” ชื่อ “ร่วมใจรัก แอท สุขุมวิท 62” จะสามารถรักษาผู้ป่วยในรูปแบบใหม่ได้มากแค่ไหน?
หัวหน้าทีมถึงกับผงะและเรียนรู้ว่า เพื่อเป็นกำลังใจเพื่อนรักให้กล้าเสี่ยงเข้าไปในพื้นที่นี้ จะต้องเขียนถามล่วงหน้า ขอให้เพื่อนประสบความสำเร็จ
ให้ประเทศไทยมีระบบการรักษาพยาบาลส่วนตัวที่จะช่วยดูแลกลุ่มรายได้ปานกลาง (ถึงสูง) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขอขอบคุณที่สรุปค่ารักษาพยาบาลด้วยคำว่า “มิตร”…และคงนโยบายนี้ไว้ตลอดไป